Back

SET เผยรายงาน ESG มีบริษัท 55 แห่งได้รับรองคาร์บอนเครดิต

SET ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก้าวสู่ปีที่ 50 กำหนดแผนกลยุทธ์ 3 ปี (2567-2569) ขับเคลื่อน 3 มิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน สู่ตลาดทุนที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน (Delivering Market Quality x Growth) 

SET

จากความเกี่ยวโยงกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่สูง ทำให้ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตั้งเป้าหมายบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี 2050 หรือ 2065 ส่งผลให้ในแต่ละปี สินค้าหรือบริการต้องแทบจะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ เหลือไม่เกิน 10 % 

จะทำธุรกิจยุคใหม่ต้องเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ดังนั้น เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและดึงดูดกลุ่มผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จึงได้เพิ่มการสนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มบทบาทการนำ AI มาใช้ปกป้องผู้ลงทุน ป้องกันการกระทำความผิด รวมทั้งติดตามคุณภาพบริษัทจดทะเบียน หรือการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย และได้มีการจัดทำคู่มือการรายงานความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน และเอกสารแนะนำตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน (ESG Metrics) ตามกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเป็นแนวทางการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่สอดคล้องกับ One Report และมาตรฐานสากล เช่น GRI Standards, SDGs เป็นต้น รวมถึงตรงตามความต้องการใช้ข้อมูล ESG ของผู้ลงทุน

ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจทางธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุน รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานระดับโลกเพื่อเป็น Platform ในการขยายธุรกิจของผู้ร่วมตลาด เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

SET

จากความเห็นของนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมได้เผยว่าระดับก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศของโลกเป็นสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความสนใจในการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) มีบทบาทมากยิ่งขึ้น

เนื่องจาก Climate Change ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่หมายถึงความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยเป็นแนวทางการลงทุนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าหลักทรัพย์ที่มีความยั่งยืนไม่ได้มีผลตอบแทนที่ลดน้อยลง แต่สิ่งที่นักลงทุนได้รับเพิ่มเติมคือระดับความเสี่ยงที่ลดลงจากการที่บริษัทสามารถบริหารปัจจัยเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจะประสบผลสำเร็จได้ ผู้ประกอบการต้องรู้ข้อมูล วัดข้อมูลก่อนว่าองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าไร แล้วค่อยลงมือเปลี่ยนผ่านธุรกิจหรือองค์กร เพื่อไปให้ถึง Net Zero ทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมเข้าเส้นชัย คว้าโอกาสที่รออยู่ในโลกอนาคตก่อนใคร

จากข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า บริษัทจดทะเบียน ใน SET ประมาณ 800 แห่ง มีเพียง 600 แห่ง ที่ได้มีการจัดทำรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืน (ESG) คิดเป็น 74% และมีเพียง 55 แห่ง ที่ได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

โดยปัญหา และอุปสรรค ที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน คือ การขาดเครื่องมือ และต้นทุนการเก็บข้อมูลที่สูงขึ้น ในการนำข้อมูลมาคำนวณเป็นตัวเลขคาร์บอนเครดิต

จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจในการสร้างเครื่องมือ อย่าง SET Carbon เพื่อเป็นมาตรฐานกลางในการคำนวณข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กร จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใน ESG Ecosystem และช่วยอำนวยความสะดวกในการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจไทยได้มากยิ่งขึ้นผ่านเครื่องมือต่างๆ ภายใต้ Ecosystem เพื่อพาไปสู่เป้าหมาย Net Zero

ESG

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังหาแนวทางในการเริ่มต้น แนะนำให้เริ่มจากการวัดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในระดับองค์กร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคมของปีนั้น ๆ คล้ายกับการทำงบการเงิน ซึ่งสิ่งนี้จะเรียกว่า “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” รวมทั้งวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากสินค้าแต่ละหน่วย ตลอดวัฏจักรชีวิตของสินค้า เรียกว่า “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์” เก็บเป็นข้อมูลเพื่อจัดทำรายงาน พัฒนาองค์กรให้ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ คิดคิด และ ECOLIFE ได้ที่

Facebook: ECOLIFE

Website: คิดคิด / ECOLIFE

Editor Kidkid
Editor Kidkid