ไมโครพลาสติก พลาสติกขนาดเล็กที่เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 5 มิลลิเมตร ซึ่งไมโครพลาสติกมี 2 แบบ ได้แก่ ไมโครพลาสติกที่เกิดจากพลาสติกขนาดเล็ก และไมโครพลาสติกที่เกิดจากการย่อยสลายหรือแตกหักของขยะพลาสติกขนาดใหญ่
ไมโครพลาสติก ใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 400 ปี
![ไมโครพลาสติก](https://media.kidkid.co.th/media/2024/02/27142520/quiet-issue-underwater-plastics-float-blue-sea-1024x512.jpg)
งานวิจัยจากวารสาร Environmental Science and Technology พบว่า ในทะเลที่ระดับความลึกกว่า 100 เมตร มีไมโครพลาสติกที่สะสมอยู่ที่ก้นทะเลตั้งแต่ปี 1965-2016 โดยตั้งแต่ปี 2000 พบว่ามีปริมาณไมโครพลาสติกสะสมเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการใช้พลาสติกที่เป็นปัญหาใหญ่และยังคงแก้ไขไม่ได้
ไมโครพลาสติกเหล่านี้จะกระจายตัวที่ตะกอนชายหาด บนผิวน้ำทะเล หรือในแนวน้ำ เมื่อสะสมแล้วจะมีการย่อยสลายน้อยมาก และไมโครพลาสติกจะไม่สลายตัวอีกต่อไปเมื่ออยู่ที่ก้นทะเลแล้ว จากการวิจัยยังประเมินปริมาณไมโครพลาสติกบนพื้นทะเล ว่ามีมากถึง 14 ล้านตัน โดยมลพิษจากพลาสติกนั้นส่งผลกระทบต่อน้ำแข็งในทะเลรอบแอนตาร์กติกา จนถึงบริเวณร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาที่ลึกที่สุดในโลก
ไมโครพลาสติกกับประเทศไทย
ไมโครพลาสติกเกิดจากปัญหาขยะพลาสติกรอบตัวที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ขวดน้ำ พลาสติก ถุงพลาสติก หรือหลอดพลาสติก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่สร้างขยะพลาสติกเป็นจำนวนสูงถึง 4.8 ล้านตันต่อปี ติดอันดับที่ 12 ในการสร้างขยะพลาสติกของโลก และยอดการใช้พลาสติกเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2020 เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ถึง 3,440 ตันต่อวัน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 62%
ไมโครพลาสติกกับผลกระทบ
- ไมโครพลาสติกจะกลายเป็นสารแขวนลอยปะปนอยู่ในทะเล เมื่อสัตว์ทะเลกินเข้าไป ก็จะไม่สามารถย่อยสลายได้ ทำให้ไมโครพลาสติกตกค้างสะสมในตัวของสัตว์ทะเล ก่อให้เกิดอันตรายหรือเสียชีวิตได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อาหาร
- ไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการรับประทานอาหารทะเล จากผลวิจัยและการเก็บตัวอย่างเลือดแบบสุ่ม พบว่า 80% จากกลุ่มตัวอย่าง ตรวจจับการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกในเลือดได้ ซึ่งไมโครพลาสติกสามารถเดินทางไปได้ในทุกๆ ส่วนของร่างกายผ่านทางหลอดเลือด และอาจไปสะสมอยู่ที่อวัยวะภายในส่วนใดส่วนหนึ่งได้
นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า ไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนในกระเพาะของสัตว์ และในเลือดหรือุจจาระของมนุษย์ คือ พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท (ใช้ทำขวดน้ำดื่ม) โพลีพรอพีลีน (เช่น แก้วโยเกิร์ต ถุงร้อนพลาสติกบรรจุ อาหาร) และโพลีไวนิลคลอไรด์ หรือ PVC (ฟิล์มห่ออาหาร)
![ไมโครพลาสติก](https://media.kidkid.co.th/media/2024/02/27142628/naja-bertolt-jensen-IUBc0cxN7Lc-unsplash-1024x768.jpg)
ไมโครพลาสติกกับการลดการใช้
การจัดการปัญหาไมโครพลาสติกที่นิยม คือ การลดจำนวนไมโครพลาสติกที่จะเข้าสู่สิ่งแวดล้อม โดยการเลิก การห้ามใช้ การลดการใช้ถุงพลาสติก การใช้พลาสติกชีวภาพชนิดที่ย่อยสลายได้ รวมไปถึงกระบวนการจัดการกับขยะพลาสติกต่างๆ เช่น การใช้ซ้ำ การดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ และการรีไซเคิล ซึ่งเป็นวิธีการที่จะลดไมโครพลาสติกเข้าสู่สิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทาง
ไมโครพลาสติกเป็นผลมาจากส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของเรา จากการใช้พลาสติก ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติก หรือมีส่วนประกอบของพลาสติก ซึ่งแฝงอยู่รอบตัวจากผลิตภัณฑ์ในชีวิตในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องสำอาง ยาสีฟัน เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น โดยการสร้างจิตสำนึก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลาสติกในชีวิตประจาวันให้น้อยลง ปฏิบัติตามตามหลัก 3R ได้แก่ ลดการใช้ (Reduce) นำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) หรือแปรรูป (Recycle) เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากไมโครพลาสติกที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
แหล่งที่มา :
https://www.springnews.co.th/keep-the-world/environment/847437
https://www.milo.co.th/all-blog/ไมโครพลาสติกคืออะไร-ผลกระทบต่อโลก
ติดตามข้อมูลข่าวสารของ คิดคิด และ ECOLIFE ได้ที่
Facebook: ECOLIFE