Back

Green Beauty กิจวัตรความงาม ช่วยสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน

Green Beauty กิจวัตรความงาม ช่วยสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน – การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ แปรงฟัน การใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลตัวเองต่าง ๆ  ไปจนถึงการแต่งหน้าทำผม ซึ่งในแต่ละวิธีการและขั้นตอนของกิจวัตรที่เราทำกันเป็นประจำนั้น อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ล้วนมีสาเหตุมาจากการดำเนินชีวิต การกระทำ หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทั้งสิ้น 

ผลกระทบของกิจวัตรความงามต่อสิ่งแวดล้อม

Green Beauty กิจวัตรความงาม

กิจวัตรความงามเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากอุตสาหกรรมความงามมีการผลิตบรรจุภัณฑ์ประมาณ 120 พันล้านชิ้นต่อปี คิดเป็น 70% ของขยะในอุตสาหกรรม โดยในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง มีการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกแข็งจำนวน 7.9 พันล้านชิ้น ซึ่งเป็นจำนวนบรรจุภัณฑ์เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ยังไม่รวมกับประเทศอื่น ๆ และจากที่กล่าวมามีเพียง 9% ที่ถูกรีไซเคิลจริงตาม EPA ก่อให้เกิดเป็นปัญหาขยะล้นโลก นอกจากนี้กระบวนการผลิตยังมีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ยังไม่รวมถึงปริมาณน้ำที่ใช้ในการผลิตและการกำจัดในอุตสาหกรรมความงามอีกมากมาย

ดังนั้นเราสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนมากขึ้นได้ โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนกิจวัตรความงามเพียงเล็กน้อย เพิ่มความใส่ใจมากขึ้น ลดสิ่งที่ไม่จำเป็นลง ก็จะสามารถช่วยประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน รวมไปถึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกด้วย 

มาดูกันว่ามีวิธีปรับเปลี่ยนกิจวัตรความงามแบบไหนที่จะลดการทำร้ายโลกของเราได้บ้าง 

รวม 8 ทริคปรับ กิจวัตรความงาม เพิ่มความยั่งยืน

เลือกใช้สินค้า Eco friendly 

เลือกใช้สินค้าที่เป็น Eco friendly หรือสนับสนุนแบรนด์รักษ์โลก เป็นวิธีการเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด โดยเริ่มจากการเลือกซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมองหาสัญลักษณ์รีไซเคิลบนตัวบรรจุภัณฑ์หรือเลือกจากบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์ความงามมากมายที่ใช้กรรมวิธีการผลิตสินค้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงใช้วัสดุที่มาจากแหล่งธรรมชาติ และแบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมารียูส รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ เพียงแค่เราเลือกสนับสนุนแบรนด์เหล่านี้ เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะพลาสติกได้แล้วนะ

ใส่ใจส่วนผสม

เราควรใส่ใจส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ ซึ่งทำได้โดยการอ่านฉลากให้ดี ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากพืช เพื่อช่วยปกป้องระบบนิเวศและทำให้สูญเสียน้ำน้อยลง เพราะมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่มีส่วนผสมที่ไม่ยั่งยืน น้ำมันปาล์ม เม็ดพลาสติกขนาดเล็ก และน้ำหอมสังเคราะห์ ซึ่งล้วนส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในน้ำ และหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของปรอท โทลูอีน ตะกั่ว ฟอร์มัลดีไฮด์ ปิโตรเลียมกลั่น โดยเฉพาะสารกลุ่มพาราเบน ซึ่งเป็นสารเคมีที่อันตรายต่อสุขภาพ และส่งผลเสียต่อโลกและสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นเดียวกัน 

ลดการใช้ Single use 

ผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมีดโกน ทิชชูเปียก และสำลีที่เช็ดเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาขยะล้นโลก และบางอย่างไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ต้องใช้การทิ้งแบบฝังกลบเพียงอย่างเดียว ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้หลายครั้ง อย่างมีดโกนที่เปลี่ยนใบมีดได้ หรือเปลี่ยนจากการใช้สำลีเช็ดเครื่องสำอาง มาเลือกใช้ผ้าหรือแผ่นเช็ดหน้าที่สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้งแทน นอกจากนี้ยังมีหลายแบรนด์ที่ผลิตแผ่นสำลีออร์แกนิกออกมาให้เลือกซื้ออีกด้วย นอกจากจะช่วยประหยัดเงินไปได้แล้ว ยังช่วยลดขยะและปกป้องสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

ใช้ผลิตภัณฑ์แบบ Multi use 

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบ Multi use หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความอเนกประสงค์ เพื่อลดการใช้ผลิตภัณฑ์จำนวนหลายชิ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้น้อยลง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถเป็นได้หลายอย่างในหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือเรียกได้ว่าเป็น 2 in 1 นั่นเอง เช่น ครีมกันแดดเบสที่เป็นทั้งครีมกันแดดและเบสรองพื้น เซรั่มกันแดดที่ปกป้องผิวและบำรุงผิวได้พร้อมกัน หรือโฟมล้างหน้า cleaser ที่ช่วยลบเครื่องสำอางได้ ทำให้ไม่ต้องใช้สำลีในการเช็ดหน้า ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำให้ลดจำนวนบรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิต การขนส่ง และการกำจัดได้อีกด้วย

Product แบบ 2in1

ลดการใช้น้ำ

การล้างหน้าโดยใช้ภาชนะรอง จะใช้น้ำเพียง 9 ลิตร นับเป็นปริมาณน้ำครึ่งหนึ่งของการล้างหน้าโดยการเปิดน้ำทิ้งไว้ที่ใช้น้ำถึง 18 ลิตร และการแปรงฟันแบบใช้แก้วรองน้ำบ้วนปากจะใช้น้ำเพียง 1 ลิตร แต่ถ้าเปิดน้ำทิ้งไว้จะใช้น้ำถึง 9 ลิตร ต่อ 1 นาทีเลยทีเดียว ดังนั้นเราควรหาแก้วหรือภาชนะมาใช้รองน้ำ หรือปิดก๊อกน้ำเมื่อไม่ได้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างล้างหน้า แปรงฟัน หรือตอนถูสบู่เมื่ออาบน้ำอยู่ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรน้ำให้ได้มากที่สุด

ปิดน้ำขณะถูสบู่

อาบน้ำสระผมด้วยอุณหภูมิปกติ

ลดการใช้พลังงานจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น แม้การอาบน้ำสระผมด้วยน้ำอุ่นทำให้รู้สึกสบาย แต่ก็มีข้อเสีย คือทำให้ผิวและเส้นผมของเราแห้งและขาดความชุ่มชื้น ลองเปลี่ยนมาอาบน้ำสระผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติแทน ทั้งทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และยังช่วยปิดเกล็ดผมให้เรียบลื่นเงางาม ช่วยทำให้เส้นผมมีสุขภาพแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงได้อีกด้วยนะฮะ

อาบน้ำสระผมอุณหภูมิปกติ

รีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ นำกลับมาใช้ใหม่ 

นำบรรจุภัณฑ์ที่มีมารีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ขวด กระปุกเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ต่าง ๆ เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายมาก เช่น เมื่อสบู่เหลวหรือยาสระผมหมด ก็เก็บขวดไว้เพื่อใช้รีฟีล หรือเมื่อใช้ครีมหมดแล้วก็สามารถนำกระปุกมาทำความสะอาดแล้วมาใช้เก็บของชิ้นเล็ก ๆ อย่างเหรียญ กิ๊บ สำลี หรือนำไปทำเป็นกระถางจิ๋ว ส่วนกล่องก็ไม่ต้องทิ้ง เพราะยังสามารถนำมาใช้จัดเก็บของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและหลายแบรนด์ที่รับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้ว เพื่อนำกลับไปรีไซเคิล โดยมีคะแนน ส่วนลด หรือสามารถแลกรับของได้ แถมยังได้ช่วยสิ่งแวดล้อมอีกด้วยเพราะกิจวัตรความงามเป็นสิ่งที่เราทำได้แบบไม่ต้องทำร้ายโลกของเรา แค่เราปรับกิจวัตรความงามเพียงเล็กน้อย ปรับเปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมเป็น Green Beauty ใส่ใจรายละเอียดมากขึ้น ลดสิ่งที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ช่วยโลกให้น่าอยู่มากขึ้นได้แล้วฮะ

✨โหลด ECOLIFEapp เพื่อเข้าร่วมเป็นชาว ECO ได้ที่ :

👉🏻iOS download: https://apple.co/3tNdnZF

👉🏻Android download: https://bit.ly/3LqkCMO

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ คิดคิด และ ECOLIFE ได้ที่

Facebook: ECOLIFE

Website: คิดคิด / ECOLIFE

Editor Kidkid
Editor Kidkid